(ชมคลิป) สวนสัตว์ขอนแก่น ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการเพาะขยายพันธุ์ นกฟลามิงโก้ใหญ่ หลังจากแม่พันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ 6 ตัว

สวนสัตว์ขอนแก่น ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการเพาะขยายพันธุ์ นกฟลามิงโก้ใหญ่ หลังจากแม่พันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ 6 ตัว ทำรังวางไข่พร้อมกัน จำนวน 6 ฟอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้ฟักลูกนกฟลามิงโก้ใหญ่ จำนวน 1 ตัว ถือเป็นตัวแรกของสวนสัตว์ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568

สวนสัตว์ขอนแก่น สังกัดองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ (Greater Flamingo) หลังจากแม่พันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ จำนวน 6 ตัว ในสวนสัตว์ขอนแก่น ทำรังวางไข่พร้อมกัน 6 ฟอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 และล่าสุดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีลูกนกฟลามิงโก้ใหญ่ตัวแรกฟักออกจากไข่อย่างสมบูรณ์ และยังเหลือไข่อีก 5 ฟอง ที่อยู่ระหว่างการฟักไข่ ซึ่งถือว่าเป็นการเพาะขยายพันธุ์ลูกนกฟลามิงโก้ใหญ่ตัวแรก โดยปัจจุบันสวนสัตว์ขอนแก่น มีนกฟลามิงโก้ใหญ่ รวมทั้งสิ้น 21 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 10 ตัว และเพศเมีย 11 ตัว ซึ่งการขยายพันธุ์ครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มจำนวนประชากร แต่ยังเป็นการแสดงถึงความพร้อมด้านการจัดการสัตว์ตามมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์สากล (Animal Welfare) โดยมีการดูแลด้านอาหาร พื้นที่อยู่อาศัย และการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

นางทิพาวดี กิตติคุณ ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของสวนสัตว์ขอนแก่น ที่สามารถเพาะขยายพันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ได้สำเร็จ ซึ่งเกิดจากการดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ และนายสัตวแพทย์ ที่คอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมและสุขภาพของนกฟลามิงโก้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง การที่ลูกนกฟักออกจากไข่ได้สำเร็จสะท้อนถึงความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมและการจัดการที่อาศัยถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของสวนสัตว์ขอนแก่นในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการอนุรักษ์เพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่า”

ลักษณะลูกนกฟลามิงโก้ใหญ่แรกฟักมี ขนอ่อนสีเทาอ่อน–ขาว จะงอยปากตรง ขาสีชมพูอมเทา นกฟลามิงโก้ใหญ่โตเต็มวัยมีน้ำหนักตัวเฉลี่ย 2–4 กิโลกรัม เพศผู้มีรูปร่างใหญ่กว่าเพศเมียอย่างเห็นได้ชัด ลักษณะเด่นคือคอและขายาว จะงอยปากสีชมพูปลายดำ ขนลำตัวและคอสีขาวเหลือบชมพู ขนคลุมปีกสีแดง และขนปีกบินสีดำ มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 30 ปี อาหารหลัก ได้แก่ ลูกกุ้ง แพลงก์ตอน และสาหร่ายบางชนิด

พฤติกรรมการทำรังและวางไข่ของนกฟลามิงโก้ใหญ่ โดยจะสร้างรังจากดินทรายผสมดินเหนียว ก่อขึ้นเป็นแท่นรูปกรวยตัดสูงราว 30–50 เซนติเมตร กว้างประมาณ 30–40 เซนติเมตร และมีแอ่งเล็ก ๆ บนยอดสำหรับวางไข่ โดยพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำรังแบบอาณานิคม (Colony Nesting) รังจำนวนมากมักกระจุกตัวใกล้กันเพื่อสร้างความปลอดภัยและกระตุ้นพฤติกรรมการสืบพันธุ์ร่วมกัน แต่ละฤดูผสมพันธุ์นกฟลามิงโก้ใหญ่ มักวางไข่เพียง 1 ฟอง ใช้เวลาฟักประมาณ 28–32 วัน โดยพ่อและแม่ผลัดกันฟักไข่และเฝ้ารังอย่างใกล้ชิด

ถิ่นกระจายพันธุ์ของนกฟลามิงโก้ใหญ่ พบได้ในแถบแอฟริกาใต้ แองโกลา แทนซาเนีย มาดากัสการ์ อินเดีย และอินโดนีเซีย โดยในธรรมชาติจะเริ่มสืบพันธุ์เมื่อมีอายุราว 6 ปี มักผสมพันธุ์ในช่วงฤดูหนาว และเลือกพื้นที่ชายน้ำหรือแอ่งน้ำตื้นที่มีโคลนมากเพียงพอในการสร้างรัง

สวนสัตว์ขอนแก่นจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและครอบครัวมาเยี่ยมชมความน่ารักของลูกนกฟลามิงโก้ใหญ่ตัวแรก พร้อมสัมผัสกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมและชีววิทยาของนกฟลามิงโก้ใหญ่ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.

ในประเทศ

Related posts